อย่านอนฟรี!!!

เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราต้องนอนด้วย ? เพราะห่วงเหรอ แล้วทำไมต้องง่วงล่ะ? เพราะอ่อนเพลียหรือเพราะหมดแรง? แล้วทำไมจึงหมดแรง เพราะใช้ชีวิต แล้วนอนทำไม? ย้อนกลับมาที่คำถามเดิม

สรุปได้ว่าเรานอนก็เพื่อซ่อมแซมร่างกายจากการใช้ชีวิตไปทั้งวัน เพื่อจะได้ตื่นขึ้นมาในสภาพเดิมที่เสื่อมน้อยที่สุด

แต่ก่อนจะนอน เราได้กินสารอาหารให้เข้าไปซ่อมแซมหรือไม่?

การกินขาหมู พิซซ่า กาลาดินเนอร์ ไม่ได้ช่วยซ่อมร่างกายแต่อย่างใด กลับทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานที่มีอยู่ไปย่อยอาหารหนัก ๆ ที่กินเข้าไปก่อนนอน

14 อาหารต่อไปนี้ หรือควรทานก่อนเวลานอนหลายๆชั่วโมง !!!

1. เนื้อสัตว์ย่อยยาก
หากใครเลือกเมนูสเต๊กหรือปิ้งย่างแบบไม่จำกัดเวลา นั่งยาวไปจนสามสี่ทุ่ม กลับบ้านก็อาบน้ำนอน เชื่อว่าต้องเคยสัมผัสกับความรู้สึกจุกไม่มากก็น้อย เผลอ ๆ นอนอยู่ดี ๆ อาจรู้สึกถึงน้ำย่อยเปรี้ยว ๆ ไหลขึ้นคอมาอีกต่างหาก นั่นก็เป็นเพราะว่า เนื้อสัตว์ย่อยยากเหล่านี้โดยเฉพาะเนื้อวัว เนื้อสันใน เนื้อชิ้นหนา ๆ ในรูปแบบสเต๊ก ร่างกายเราต้องใช้เวลาในการย่อยค่อนข้างนาน น้ำย่อยจำเป็นต้องถูกหลั่งออกมามาก โอกาสที่น้ำย่อยหรือกรดในกระเพาะอาหารจะไหลย้อนกลับไปที่หลอดอาหารจึงมีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว หากใครเลือกเมนูสเต๊กหรือปิ้งย่างแบบไม่จำกัดเวลา นั่งยาวไปจนสามสี่ทุ่ม กลับบ้านก็อาบน้ำนอน เชื่อว่าต้องเคยสัมผัสกับความรู้สึกจุกไม่มากก็น้อย เผลอ ๆ นอนอยู่ดี ๆ อาจรู้สึกถึงน้ำย่อยเปรี้ยว ๆ ไหลขึ้นคอมาอีกต่างหาก นั่นก็เป็นเพราะว่า เนื้อสัตว์ย่อยยากเหล่านี้โดยเฉพาะเนื้อวัว เนื้อสันใน เนื้อชิ้นหนา ๆ ในรูปแบบสเต๊ก ร่างกายเราต้องใช้เวลาในการย่อยค่อนข้างนาน น้ำย่อยจำเป็นต้องถูกหลั่งออกมามาก โอกาสที่น้ำย่อยหรือกรดในกระเพาะอาหารจะไหลย้อนกลับไปที่หลอดอาหารจึงมีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว
2. อาหารรสจัด
ถ้าคุณมักจะกินอาหารรสจัด ประเภทยำต่าง ๆ ส้มตำ ต้มยำ ลาบ อาหารที่มีรสจัดทั้งหลาย เมนูดังกล่าวจะกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร อีกทั้งความเผ็ดร้อนของรสชาติอาหารยังอาจทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการระคายเคืองอีกด้วยนะคะ เท่ากับว่านอกจากจะเสี่ยงโรคกรดไหลย้อนแล้ว ยังอาจได้แผลในกระเพาะอาหารแถมมาด้วยแบบที่ไม่ถงไม่ถามสุขภาพสักคำ
3. อาหารทอดๆ อาหารไขมันสูง
ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด หมูหัน หมูทอด ไข่เจียว หรืออาหารทอด ๆ ทั้งหลายก็ไม่ควรกินก่อนนอนค่ะ เพราะนอกจากอาหารไขมันสูงจะให้พลังงานสูงแล้ว เมนูเหล่านี้ยังก่อให้เกิดภาวะไขมันสะสมจนน้ำหนักขึ้นได้ (ในกรณีที่กินแต่ไม่ค่อยออกกำลังกาย) ดังนั้นขั้นแรกก็รับไปเลยกับความอ้วน ส่วนอีกข้อเสียคือ อาหารไขมันสูงเป็นอาหารที่ร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อยค่อนข้างนาน ซึ่งเท่ากับว่าน้ำย่อยก็ต้องหลั่งออกมาจนกว่าอาหารเหล่านี้จะถูกย่อยไปจนหมด ฉะนั้นหากกินอาหารไขมันสูงก่อนนอน รับรองว่ามีความเสี่ยงโรคกรดไหลย้อนเพิ่มขึ้นแน่นอน
4. อาหารหมักดอง
อาหารหมักดองอย่างปลาร้า หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม กิมจิ ซูชิบางชนิดที่มีผักดอง ก็มีส่วนเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหาร ก่อให้เกิดอาการจุดเสียดแน่นท้องจากภาวะกรดเกินได้เหมือนกันนะคะ ยิ่งถ้ากินอาหารหมักดองก่อนเข้านอนด้วยแล้ว ท้องไส้คงปั่นป่วนจนนอนหลับได้ไม่สนิทแน่ ๆ และความอันตรายที่แท้ทรูก็คือ อาจจะเสี่ยงเกิดอาการกรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอกอีกต่างหาก
5. พิซซ่า
ในวันที่ขี้เกียจออกไปไหน หลายคนมักจะฝากท้องไว้กับพิซซ่า เพราะคิดเอาเองว่ากินพิซซ่าก็ได้ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน แถมยังมีผัก มีชีส มีซอส ดูเหมือนจะมีสารอาหารครบดีจริงไหมคะ แต่ทั้งชีส แป้งพิซซ่าซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว และซอสมะเขือเทศซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดในตัวเอง เครื่องปรุงและวัตถุดิบเหล่านี้แหละที่กระเพาะต้องหลั่งน้ำย่อยออกมามาก ๆ เพื่อพยายามย่อยอาหารให้หมด ๆ ไป สุดท้าย กรดที่ถูกหลั่งออกมาย่อยพิซซ่า ก็อาจกลับมาเล่นงานตัวเราเองก็ได้
6. ผักบางชนิด
เช่น บรอกโคลี กะหล่ำ หัวหอมใหญ่ดิบ กระเทียม พริก พริกไทย สะระแหน่ หอมแดง เปปเปอร์มินต์ รวมไปถึงผักดิบทุกชนิดก็ไม่ควรรับประทานก่อนนอน เนื่องจากผักดิบโดยเฉพาะผักที่เรายกตัวอย่างข้างต้น จัดเป็นผักที่มีกรดและแก๊สมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด เนื่องจากกรดเกินในกระเพาะอาหาร ที่สำคัญหากกินอาหารประเภทนี้แล้วนอนภายใน 2 ชั่วโมง กรดและแก๊สอาจไหลย้อนกลับทำให้เป็นโรคกรดไหลย้อนในที่สุด
7. ผลไม้บางชนิด
นอกจากผักแล้ว ผลไม้ที่มีกรดมากอย่างส้ม องุ่น มะนาว เลมอน มะเขือเทศ สับปะรด หรือแม้กระทั่งน้ำผลไม้รสเปรี้ยวจัด รวมทั้งซอสมะเขือเทศ ผลไม้เหล่านี้มีกรดเยอะนะคะ ยิ่งในซอสมะเขือเทศที่มักจะเติมน้ำส้มสายชูซึ่งก็เป็นกรดเข้าไปด้วย กรดในกระเพาะอาหารก็จะยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้น จนก่อความไม่สบายท้องไส้ นอนหลับกระสับกระส่าย รวมไปถึงมีโอกาสที่กรดเกินในกระเพาะอาหารจะกลายเป็นกรดไหลย้อนให้ทรมานอีกด้วย
8. ไอศกรีม
ดูเป็นอาหารว่างหลังมื้อเย็นที่ใคร ๆ ก็กินกัน โดยหารู้ไม่ว่า ไอศกรีมเป็นของหวานที่ไขมันสูงพอตัวเลยล่ะค่ะ ยิ่งหากใครกินไอศกรีมรสช็อกโกแลต รสกาแฟ มอคค่า หรือกินไอศกรีมกะทิมัน ๆ ก่อนเข้านอนก่อนเพียงไม่กี่ชั่วโมง บอกเลยว่ากระเพาะอาหารยังย่อยไขมันเหล่านี้ไม่หมดเลยจ้า กรดและน้ำย่อยยังคงถูกปล่อยออกมาอยู่ ซึ่งเมื่อล้มตัวลงนอนเมื่อไร กรดและน้ำย่อยอาจไหลย้อนกลับก่อให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกขึ้นมาได้ง่าย ๆ
9. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหย่อนยาน ร่างกายจึงจะไม่สามารถกักเก็บอาหารไว้ได้และมีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคกรดไหลย้อน
10. โซดา
อย่ามองข้ามน้ำใสๆอย่างโซดา เพราะไม่มีเครื่องดื่มชนิดใดให้ความเป็นกรดได้มากกว่าโซดาอีกแล้ว และกรดนี้จะสร้างความเสียหายให้แก่หูรูดได้เช่นกัน อีกทั้งการเกิดคาร์บอเนตจะยิ่งเพิ่มความดันในกระเพาะอาหารอีกด้วย
11. น้ำอัดลม
ขึ้นชื่อว่าน้ำอัดลม รสชาติซ่า ๆ ก็บอกให้เรารู้แล้วว่าเครื่องดื่มเหล่านี้มีส่วนผสมของแก๊สเยอะ อันเป็นสาเหตุสำคัญของอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และทำให้ระบบย่อยอาหารของเราปั่นป่วนไปหมด ดังนั้นใครที่ชอบดื่มน้ำอัดลมหลังมื้อเย็นและก่อนเข้านอน เตรียมตัวรับมือกับอาการกรดไหลย้อนไว้บ้างก็ดีนะคะ
12. ชา กาแฟ
ในกาแฟจะมีความเป็นกรดสูง แถมสารคาเฟอีนในกาแฟยังสามารถสร้างกรดในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย และที่สำคัญหากกินในเวลากลางคืน ก็อาจจะทำให้นอนไม่หลับได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นไม่ควรกินกาแฟในช่วงเวลากลางคืนเป็นอันขาด
13. ถั่ว
แม้ว่าโดยทั่วไปถั่วจะมีไขมันตัวดีแต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานก่อนนอนเช่นกัน เพราะไขมันในถั่วอาจทำให้กล้ามเนื้อหูรูดแย่ได้
14. ช็อคโกแลต
เนื่องจากช็อคโกแลตมีคาเฟอีนและสารกระตุ้นที่ชื่อว่าทีโอโบรมีนที่อาจทำให้ไตเสียหายเฉียบพลัน อีกทั้งบางรสชาติอาจมีไขมันสูงจนทำให้กล้ามเนื้อหูรูดซึ่งเชื่อมต่อระหว่างกระเพาะอาหารกับหลอดอาหารหย่อนยานอีกด้วย

เชื่อเลยว่า อ่านดูแล้ว ห้ามยากเสียเหลือเกิน
เราจึงต้องสรรหาสารอาหารบริสุทธิ์ที่เรียกว่า “อาหารเสริม” เพื่อไปช่วยซ่อมแซมร่างกายทุกส่วน ให้ตื่นขึ้นรับวันใหม่ในสภาพเดิมหรือดีกว่าเดิม

ระลึกไว้เสมอค่ะ ว่าอย่านอนฟรี คุณ ๆ นอนฟรี นอนแบบทำร้ายร่างกาย มากี่ปีแล้ว โดยไม่ได้ซ่อมร่างกายแต่อย่างใด แถมยังไม่ได้คิดที่จะทำให้ร่างกายดีขึ้นเมื่อตื่นนอนอีก

ซ่อมเถอะค่ะ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ซ่อม

กลับหน้าแรก

แหล่งรวมผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจและคอยติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางเรา